

10 ข้อแตกต่าง มัธยมvsมหาลัย ที่น้องๆ ต้องรู้
การศึกษา
10 ข้อแตกต่างของมัธยม vs มหาลัย มีอะไรบ้างมาดูกัน

1. มหาวิทยาลัยมีอิสระมากกว่า
ไม่ว่าจะเป็นอิสระในการแต่งกาย แต่งหน้า ทำสีผม น้องๆ จะสามารถทำได้ตามใจชอบเลยค่ะ เพียงแค่อยู่ในกรอบของความสุภาพ และเคารพในขอบเขตของมหาวิทยาลัย แต่ในบางมหาวิทยาลัยก็อาจจะมีกฎการแต่งกายที่ค่อนข้างเคร่งครัดค่ะ
2. มหาวิทยาลัยดูแลตัวเอง 100%
สำหรับน้องคนไหนที่ตอนมัธยมอาจจะมีผู้ปกครองคอยรับ-ส่ง กลับบ้านมีข้าวให้ทาน แต่ว่าชีวิตเด็กหอ
มหาวิทยาลัยนั้น น้องๆ ต้องจัดการทุกอย่างเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานบ้าน ดูแลความสะอาด อาหารการกิน เตรียมชุดเครื่องแต่งกาย การดูแลพาหนะที่น้องๆ ใช้ การแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น้องๆจะได้สัมผัสชีวิตและสนุกไม่น้อย
3. เพื่อนที่หลากหลาย
ตอนมัธยมเราอาจจะมีเพื่อนเป็นกลุ่มๆ ใช่ไหมคะ แต่ว่าในมหาวิทยาลัยนั้นเราจะรู้จักผู้คนมากขึ้น มีเพื่อนมากมายหลากหลายสไตล์ บางทีน้องอาจจะเจอคนแปลกๆ ติสท์มาก หรือเก่งมากๆ ในระดับเทพ และจะได้พบเจอทั้งเพื่อนในเซคเดียวกัน ในเมเจอร์เดียวกัน หรือการทำงานร่วมกันระหว่างนักศึกษาก็จะทำให้น้องๆ ได้เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องจากต่างคณะอีกค่ะ แต่ก็เลือกคบเพื่อนที่ดีด้วยน้า เพราะทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดีค่ะ
4. การเรียนการศึกษาที่ยากและเข้มข้นกว่ามัธยมมากๆ
ข้อนี้อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ๆ ที่ทำให้เด็กปีหนึ่งหลายๆ คนเกิดปัญหาในการปรับตัวเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะตอนมัธยมเราอาจจะสามารถทั้งเรียน และเล่นโดยที่ไม่ต้องคิดมากกับการเรียนนัก มีคะแนนงานให้ส่ง มีหนทางให้แก้เกรด หรือการตกในแต่ละวิชาที่ง่ายกว่า ความเครียดน้อยกว่า แต่ในมหาวิทยาลัยนั้น หากน้องติดF ก็ต้องลงเรียนซ้ำๆ จนกว่าจะผ่านค่ะ วิชาส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นคะแนนสอบ100% และยังจะมีทั้งงานทั้งกิจกรรม การเรียนมหาวิทยาลัยจึงต้องใช้ทั้งความพยายาม ความรับผิดชอบ และวุฒิภาวะที่มากขึ้นในการเรียนด้วยค่ะ
5. มีกิจกรรมให้ทำมากมาย
มัธยมเราอาจจะมีกิจกรรมให้ทำเป็นช่วงๆ ตามเทศกาลต่างๆ ใช่ไหมล่ะคะ แต่มหาวิทยาลัยจะมีตลอดเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวคณะนั้นคณะนี้ก็จะมีโครงการต่างๆ ออกมาอยู่ตลอดทั้งงานรับน้องต่างๆ และก็มีกิจกรรมจากชมรม จากวิชาที่เรียน หรืองานนิทรรศการค่ะ รับรองว่าใครสายกิจกรรมสนุกแน่นอน
6. ได้เรียนวิชาที่สนใจอย่างเจาะลึกจัดเต็ม
ไม่ว่าน้องๆ จะเลือกสาขาไหน เมื่อเรียนมหาวิทยาลัยน้องก็จะรู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบมีแต่วิชาที่น้องๆ ต้องเรียนเลยค่ะ เพราะเราต้องอยู่กับการเรียนวิชานั้นตลอดเวลา ต้องเข้าใจวิชาที่เรียนอย่างแตกฉาน รู้ลึกรู้จริง ตามมาตรฐานของอาจารย์ค่ะ
7. มีอิสระในการเที่ยว
มหาวิทยาลัยจะไม่เหมือนมัธยมที่มีตารางการเรียนทั้งวันค่ะ ตารางการเรียนของน้องๆ จะขึ้นอยู่กับวิชาที่น้องลงทะเบียนเรียนในแต่ละเทอมค่ะ ลงมากลงน้อยตารางเวลาก็จะต่างกันออกไป ซึ่งเวลาที่ไม่มีเรียนน้องสามารถไปไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ส่วนตัวเราแล้วชอบกลับไปนอนพักที่หอค่ะแล้วค่อยออกมาเรียน5555+
8. อาจารย์ใส่ใจไม่ทิ้งนักศึกษา
มีบางคนกล่าวว่าอาจารย์มหาลัยไม่ตามงาน ไม่สนใจว่านักศึกษาจะสอบไม่สอบ จบไม่จบ เท่าที่เราพบเจอมา ไม่เป็นความจริงเลยค่ะ อาจารย์มหาลัยออกจะตามตัวนักศึกษายิ่งกว่าอาจารย์มัธยมเสียด้วยซ้ำค่ะในบางครั้ง เราเองก็เคยโดนอาจารย์ตามค่ะ ไม่ว่าจะส่งงาน เสี่ยงเอฟ โทรตามให้ไปสอบ คอยย้ำเตือนให้อ่านหนังสือเพื่อให้ทำข้อสอบได้ คอยติดตามนักศึกษาทุกคนเพื่อให้ทุกคนสามารถสอบผ่านแต่ละวิชาและจบการศึกษาอย่างสวยงามค่ะ
9. เกรดต่ำกว่าตอนเรียนมัธยม
เรื่องปกติค่ะ ไม่ต้องตกใจ555+ จากที่น้องเคยได้ 4.00 ที่นี่น้องอาจจะ 2.50 ก็ได้ค่ะ ซึ่งมันก็มีผลมาจากหลากหลายสาเหตุค่ะ ทั้งความยากของวิชาเรียน หรือมาตรฐานในการตัดเกรด A ของอาการ การตัดเกรดอิงกลุ่ม หรืออิงเกณฑ์ หากใครเข้าไปเรียนแล้วยังรักษาระดับเกรดได้ดีพี่ก็ขอชื่นชม เก่งมากค่ะ แต่สำหรับใครที่เกรดต่างจากตอนมัธยมลิบลับพี่อยากบอกน้องๆ ว่า ไม่ติด F ก็เก่งมากๆ แล้วค่ะ
10. การซิ่วเป็นเรื่องปกติ
การเรียนมหาลัย เนื่องด้วยเราต้องอยู่กับศาสตร์วิชานั้นๆ แบบเจาะลึกจัดเต็มตลอดระยะเวลา 4-6 ปีนั้น หากว่าน้องหลายๆคน ได้พบเจอว่าสิ่งที่เรียนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ชอบ หรือเรียนไม่ไหวแล้วตัดสินใจซิ่ว มันเป็นเรื่องปกติมากๆค่ะ เพราะการเรียนสิ่งที่ไม่ชอบในมหาวิทยาลัย นับว่าเป็นสิ่งที่ทรมานมากๆ ถ้าหากจะให้พี่แนะนำหากน้องๆ พบเจอสถานการณ์แบบนี้ พี่มีให้ 2 ทางเลือกค่ะ อย่างแรก ทนฝืนเรียนต่อจนจบ กับอย่างที่สอง ซิ่วค่ะน้อง ซิ่วไปอยู่ที่ที่น้องชอบค่ะ
จบแล้วกับ 10 ข้อแตกต่างมัธยม vs มหาลัย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ยังไงเราก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนเลยค่ะ^^